อยากบอกลาความจน ต้องคิดแบบคนรวย

ความรวยจนขึ้นอยู่กับมุมมองและความคิด ถ้าเรามีความคิดแบบคนรวย เราก็มีแนวโน้มจะลงมือทำให้รวยขึ้น รวยขึ้น แต่ถ้ามีความคิดแบบคนจน เราก็มีแนวโน้มทำให้ตัวเองจนลง จนลง... มาเปิดมุมมอง เปลี่ยนความคิดแบบคนรวยกันค่ะ


1. คนรวยมักคิดว่า “เงินหาง่ายมาก” แต่คนจนส่วนใหญ่คิดว่า “เงินหายากจัง”

คนรวยมักหาช่องทางใหม่ๆ ในการหาเงิน หรือ ความมั่งคั่งมากขึ้น ถึงแม้เคยล้มละลาย หรือมีหนี้สิน แต่ก็กลับมาสร้างความร่ำรวยได้มากขึ้นอีก เช่น คุณตัน ภาสกรนที ที่ครั้งหนึ่งเคยมีหนี้กว่า 100 ล้านบาท แต่ตอนนี้คุณตันเป็นมหาเศรษฐีไทยอันดับต้นๆ ของประเทศไทย


2. คนรวยมักคิดว่า “มีดีที่จะขาย” แต่คนจนส่วนใหญ่คิดว่า “ไม่กล้าที่จะขาย”

คนที่ไม่กล้าขาย คิดว่าไม่ดีพอ ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง เงินที่เคยมีก็ย่อมลดลง แต่คนที่ขายเก่งก็มีแนวโน้มได้เงินมากขึ้น คนรวยส่วนใหญ่สามารถขายในสิ่งที่เชื่อได้ เช่น ขายความคิด ขายโปรเจ็คต์ ขายความเชี่ยวชาญ ขายความสามารถ หรือ ขายสินค้าและบริการต่างๆ ตัวอย่างของคนที่ขายเก่ง คือ คุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ แม้จะล้มละลาย ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 แต่ก็ไม่ท้อถอย จากที่เคยเป็นเศรษฐีพันล้าน ก็มาขายแซนด์วิชริมฟุตปาธ จนคนส่วนใหญ่ รู้จักในนาม “ศิริวัฒน์แซนด์วิช” จนตอนนี้คุณศิริวัฒน์กลับมาร่ำรวยอีกครั้ง ในฐานะประธานบริษัท ทีจีไอเอฟ จำกัด


3. คนรวยมักถามตัวเองว่า “ทำยังไง..ให้ได้เงินมากขึ้น ?” แต่คนจนส่วนใหญ่คิดว่า “ ไม่มีเงิน..ทำไงดี? ”

คำถามฉุกคิดคมๆ ที่เราถามให้ตัวเอง สามารถส่งเสริมและสนับสนุนเราให้รวยมากขึ้น ประสบความสำเร็จมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม คำถามหลายคำถาม ที่เราพร่ำถามตัวเอง ทำให้คุณค่าเราลดลง แรงบันดาลใจลดลง หมดพลังในการลงมือทำตามเป้าหมายของตัวเอง


มาลองตั้งคำถามใหม่ๆให้ตัวเราเองคิดนอกกรอบกันค่ะ ออกไปสร้างความมั่งคั่ง ความสุข และ ความสำเร็จที่คุณปรารถนา มาเปลี่ยนความคิดเรากัน ให้เป็นความที่ให้พลัง สร้างแรงบันดาลใจ ให้คุณค่าและเป็นประโยชน์กับตัวเอง ซึ่งกระบวนการถามคำถามให้ได้รู้จักตัวตนว่ารักและชอบที่จะทำอะไร ดึงศักยภาพที่มีในตัวตน สร้างความมั่นใจว่าสามารถทำในสิ่งนั้น ๆ ได้ เรียกว่า การโค้ชชิ่ง